วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

ข่าว IT


[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ความสามารถของการถ่ายภาพจาก iPhone 5 แม้จะมีข้อดีแต่มันก็ยังมีข้อจำกัดอยู่พอสมควรและในตอนนี้มันอาจเป็นรองคู่แค่อย่าง Samsung Galaxy S4 Zoom, Nokia Lumia 1020 และอาจรวมทั้ง Sony Xperia Honami ที่เตรียมเปิดตัวเร็วๆนี้ด้วย อย่างไรก็ตามทีมนักออกแบบของสิงคโปร์ก็เกิดปิ๊งไอเดียสร้างสรรค์เคส iPhone 5 แนวใหม่ที่มากับเลนส์พร้อมเซนเซอร์คุณภาพสำหรับการถ่ายภาพโดยเฉพาที่ผ่านมาเราเคยเห็นอุปกรณ์เสริมสำหรับ iPhone เพื่อการถ่ายภาพไปบ้างแต่บางครั้งมันอาจเป็นอุปสรรคเรื่องการพกพาไปบ้าง แต่ "Ladibird" คือเลนส์เสริมสำหรับ iPhone 5 ที่มาในรูปแบบของเคส ภายในเคส Ladibird มี Lightning connector เพื่อเชื่อมต่อกับ iPhone 5 ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานผ่านแอพแอพ Ladibird และแชร์ไปยังโซเชี่ยลมีเดียได้อย่างง่าย ถูกใจ นอกจากนี้ตัวเคสยังรองรับ iPhone รุ่นใหม่ด้วย ฉะนั้นผู้ใช้ iPhone รุ่นเก่าหมดสิทธิ์ใช้งานแน่นอน เคส Ladibird ถูกออกแบบตามคอนเซปต์ของกล้อง Mirrorless ตัวเลนส์มีขนาด 50mm รูรับแสง f/1.8 พร้อมเซนเซอร์ CMOS ช่วยให้การภาพแบบหน้าชัดพื้นหลังเบลอหรือโบเก้ผ่าน iPhone 5 เป็นเรื่องง่ายภายในพริบตา




Ladibird ถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณภาพของภาพถ่ายมีความคดชัดเช่นเดียวกับกล้อง DSLR โดยที่ตัวเคสมีน้ำหนักเบาและมีการใช้งานที่ไม่ซับซ้อนแต่อย่างใด
ะในชื่อ "Ladibird"



สำหรับการวางขายในสหรัฐอเมริกาทางทีมนักออกแบบจะเริ่มจัดส่งล็อตแรกภายในวันที่ 30 มิถุนายน ปี 2014 ซึ่ง 100 ท่านแรกมีราคาอยู่ที่ 137 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 4,110 บาท และ 300 ท่านต่อมาจะมีราคาที่ 167 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ 5,010 บาท จัดส่งภายใน 30 กันยายน 2014 และ 100 ท่านสุดท้ายราคา 197 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 5,910 บาท จัดส่งภายใน 30 กันยายน 2014 เช่นกัน

แหล่งที่มา : http://www.arip.co.th/news.php?id=417179

วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

กฎของมัวร์

Moore's law


Moore's law คือ
          กฎของมัวร์ หรือ Moore's  law  คือ กฎที่อธิบายแนวโน้มของการพัฒนาฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์ในระยะยาว มีความว่า จํานวนทรานซิสเตอรที่สามารถบรรจุลงในชิพจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ในทุกๆสองปี Gordon E. Moore ผู้ก่อตั้ง Intel  ซึ้งได้อธิบายแนวโน้มไว้ในรายงานของเขาในปี 1965 จึงพบว่ากฎนี้แม่นยำ อาจเกิดขึ้นเนื่องจาก อุตสาหกรรม semiconductor  นำกฎนี้ไปเป็นเป้าหมายในการวางแผน พัฒนาอุตสาหกรรมได้ Moore’s law เป็น ปริมาณของทรานซิสเตอร์บนวงจรรวมจำนวนของทรานซิสเตอร์ ต่อตารางนิ้วบนแผงวงจรรวม มีสองเท่าทุกปีตั้งแต่วงจรรวมถูกคิดค้น Moore predicted that this trend would continue for the foreseeable future. มัวร์ที่คาดการณ์ว่าแนวโน้มจะดำเนินต่อไปในอนาคตอันใกล้ ในปีถัดไป,การก้าวชะลอตัวลงเล็กน้อยแต่ความหนาแน่นของข้อมูลได้เท่าประมาณทุก 18 เดือน
กฎของมัวร์ (Moore's Law)       
          ในปี พ.ศ. 2490 วิลเลียมชอคเลย์และกลุ่มเพื่อนนักวิจัยที่สถาบัน เบลแล็ป ได้คิดค้นสิ่งที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อชาวโลกมาก เป็นการเริ่มต้นก้าวเข้าสู่ยุคอิเล็กทรอนิคส์ที่เรียกว่า โซลิดสเตทเขาได้ตั้งชื่อสิ่งที่ประดิษฐ์ขึ้นมาว่า "ทรานซิสเตอร์" แนวคิดในขณะนั้นต้องการควบคุมการไหลของกระแสไฟฟ้า ซึ่งสามารถทำได้ดีด้วยหลอดสูญญากาศแต่หลอดมี ขนาดใหญ่เทอะทะใช้กำลังงานไฟฟ้ามากทรานซิสเตอร์จึงเป็นอุปกรณ์ที่นำมาแทนหลอดสูญญากาศได้เป็นอย่างดีทำให้เกิดอุตสาหกรรมสารกึ่งตัวนำตามมา และก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ 
          การสร้างทรานซิสเตอร์มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง บริษัท แฟร์ซายด์ เซมิคอนดัคเตอร์เป็นบริษัทแรกที่เริ่มใช้เทคโนโลยีการผลิตทรานซิสเตอร์แบบ  Planar หรือเจือสารเข้าทางแนวราบ เทคโนโลยีแบบของการสร้างไอซีในเวลาต่อมา จากหลักฐาน พบว่า บริษัทแฟร์ซายด์ได้ผลิตพลาน่าทรานซิสเตอร์ตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2502 และบริษัทเท็กซัสอินสตรูเมนต์ได้ผลิตไอซีได้ในเวลาต่อมา และกอร์ดอนมัวร์กล่าวไว้ว่า จุดเริ่มต้นของกฎของมัวร์เริ่มต้นจากการเริ่มมีพลาน่าทรานซิสเตอร์ 
 
          คำว่า กฎของมัวร์ นั้นถูกเรียกโดยศาสตราจารย์   Caltech   นามว่า    Carver Mead
ซึ่งกล่าวว่าจํานวนทรานซิสเตอร์จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทุกๆหนึ่งปี ในช่วงปี 1965 ต่อมามัวร์จึงได้

เปลี่ยนรูปกฎ เพิ่มขึ้นสองเท่าในทุกๆสองปี ในปี 1975

บิตตรวจสอบ (Party Bit)

บิตตรวจสอบ (Parity Bit)

 

            บิตตรวจสอบ  (Party Bit)
 
            บิตตรวจสอบ  หรือพาริตี้บิตเป็นบิตที่เพิ่มเติมเข้ามาต่อท้ายอีก  บิต เป็นบิตพิเศษที่ใช้สำหรับตรวจสอบความแม่นยำและความถูกต้องของข้อมูลที่ถูกจัดเก็บลงในคอมพิวเตอร์   มีวิธีการตรวจสอบอยู่ 2 วิธี คือ 
1.    การตรวจสอบบิตภาวะคู่  (Even  Parity)
2.     การตรวจสอบบิตภาวะคี่  (Odd  Parity)

วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

adisorn ตาราง Unicode & ASCll




ตาราง Unicode

Unicode คืออะไร
     ยูนิโค๊ด คือ รหัสคอมพิวเตอร์ใช้แทนตัวอักขระ สามารถใช้แทน ตัวอักษร,ตัวเลข,สัญลักษณ์ต่างๆ ได้มากกว่ารหัสแบบเก่าอย่าง  ASCII ซึ่งเก็บตัวอักษรได้สูงสุดเพียง 256 ตัว(รูปแบบ) โดย Unicdoe รุ่นปัจจุบันสามารถเก็บตัวอักษรได้ถึง 34,168 ตัวจากภาษาทั้งหมดทั่วโลก 24 ภาษา โดยไม่สนใจว่าเป็นแพลตฟอร์มใด ไม่ขึ้นกับโปรแกรมใด หรือภาษาใด





ตาราง ASCII


ความหมาย
ย่อมาจาก American Standard Code for Information Interchange ที่แปลว่า รหัสมาตรฐานของสหรัฐอเมริกาเพื่อการสับเปลี่ยนสารสนเทศ พูดง่าย ๆ ก็คือ แอสกี เป็นรหัสมาตรฐานแบบหนึ่งที่ใช้แทนตัวอักขระต่าง ๆ เรียกว่า รหัสแอสกี



                                                                                                                            _ _ _ _ _
ADISORN SANTIKUNAKORN

A = 0100 0001
D = 0100 0100
I  = 0100 1001
S = 0101 0011
O = 0100 1111
R = 0101 0011
N = 0100 1110

S = 0101 0011
A = 0100 0001
N = 0100 0100
T = 0101 0100
I = 0100 1001
K = 0100 1011
U = 0111 0101
N = 0100 1110
A = 0100 0001
K = 0100 1011
O = 0100 1111
R = 0101 0011
N = 0100 0100
     

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ประวัติคอมพิวเตอร์

1. บุคคลต่อไปนี้ มีความสำคัญอย่างไร ในประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์ จงอธิบาย โดยระบุถึงปีที่เกิดเหตุการณ์ และผลงานที่สำคัญ


     Charles Babbage
         
บุคคลสำคัญด้านคอมพิวเตอร์
 Chales Babbage พ.ศ. 2373 Chales Babbage ถือกำเนิดที่ประเทศอังกฤษ เมื่อ พ.ศ. 2334 จบการศึกษาทางด้านคณิตศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ และได้รับตำแหน่ง Lucasian Professor ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ Isaac Newton เคยได้รับมาก่อน ในขณะที่กำลังศึกษาอยู่นั้น Babbage ได้สร้างเครื่อง หาผลต่าง (Difference Engine) ซึ่งเป็นเครื่องที่ใช้คำนวณ และพิมพ์ตารางทางคณิศาสตร์อย่างอัตโนมัติ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2373 เขาได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลอังกฤษเพื่อสร้างเครื่อง Difference Engine ขึ้นมาจริงๆ แต่ในขณะที่ Babbage ทำการสร้างเครื่อง Difference Engine อยู่นั้น 
ได้พัฒนาความคิดไปถึง เครื่องมือในการคำนวนที่มีความสามารถสูงกว่านี้ ซึ่งก็คอืเครื่องที่เรียกว่าเครื่องวิเคราะห์ (Analytical Engine) และได้ยกเลิกโครงการสร้างเครื่อง Difference Engine ลงแล้วเริ่มต้นงานใหม่ คือ งานสร้างเครื่องวิเคราะห์ ในความคิดของเขา โดยที่เครื่องดังกล่าวประกอบไปด้วยชิ้นส่วนที่สำคัญ 4 ส่วน คือ

1. ส่วนเก็บข้อมูล เป็นส่วนที่ใช้ในการเก็บข้อมูลนำเข้าและผลลัพธ์ที่ได้จากการคำนวณ
2. ส่วนประมวลผล เป็นส่วนที่ใช้ในการประมวลผลทางคณิตศาสตร์
3. ส่วนควบคุม เป็นส่วนที่ใช้ในการเคลื่อนย้ายข้อมูลระหว่างส่วนเก็บข้อมูล และส่วนประมวลผล
4. ส่วนรับข้อมูลเข้าและแสดงผลลัพธ์ เป็นส่วนที่ใช้รับทราบข้อมูลจากภายนอกเครื่องเข้าสู่ส่วนเก็บ และแสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการคำนวณให้ผู้ใช้ได้รับทราบ

  เป็นที่น่าสังเกตว่าส่วนประกอบต่างๆ ของเครื่อง Alaytical Engine มีลักษณะใกล้เคียงกับส่วนประกอบ ของระบบคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบัน แต่น่าเสียดายที่เครื่อง Alalytical Engine ของ Babbage นั้นไม่สามารถ สร้างให้สำเร็จขึ้นมาได้ ทั้งนี้เนื่องจากเทคโนโลยี สมัยนั้นไม่สามารถสร้างส่วนประกอบต่างๆ ดังกล่าว และอีกประการหนึ่งก็คือ สมัยนั้นไม่มีความจำเป็น ต้องใช้เครื่องที่มีความสามารถสูงขนาดนั้น ดังนั้นรัฐบาล อังกฤษจึงหยุดให้ความสนับสนุนโครงการของ Babbage ในปี พ.ศ. 2385 ทำให้ไม่มีทุนที่จะทำการวิจัยต่อไป สืบเนื่องจากมาจากแนวความคิดของ Analytical Engine เช่นนี้จึงทำให้ Charles Babbage ได้รับการยกย่อง ให้เป็น บิดาของเครื่องคอมพิวเตอร์




    Lady Augusta Ada Byron
    
 บุคคลสำคัญด้านคอมพิวเตอร์
 Lady Auqusta Ada Byron พ.ศ. 2385 ชาวอังกฤษ ชื่อ Lady Auqusta Ada Byron ได้ทำการแปลเรื่องราวเกี่ยวกับเครื่อง Anatical Engine จากภาษาฝรั่งเศลเป็นภาษาอังกฤษ ในระหว่างการแปลทำให้ Lady Ada เข้าใจถึงหลักการทำงาน ของเครื่อง Analytical Engine และได้เขียนรายละเอียดขั้นตอนของคำสั่งให้เครื่องนี้ทำการคำนวณที่ยุ่งยาก ซับซ้อนไว้ในหนังสือทางคณิตศาสตร์เล่มหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์โปรแกรมแรกของโลก และจากจุดนี้จึงถือว่า Lady Ada เป็นโปรแกรมเมอร์คนแรกของโลก (มีภาษาที่ใช้เขียนโปรแกรมที่เก่แก่ อยู่หนึ่งภาษาคือภาษา Ada มาจาก ชื่อของ Lady Ada) นอกจากนี้ Lady Ada 
ยังค้นพบอีกว่าชุดบัตรเจาะรู ที่บรรจุคำสั่งไว้สามารถนำกลับ มาทำงานซ้ำได้ถ้าต้องการ นั่นคือหลักของการทำงานวนซ้ำ หรือเรียกว่า Loop เครื่องมือที่ใช้ในการคำนวณที่ถูกพัฒนาขึ้นในศตวรรษที่ 19 นั้น ทำงานกับเลขฐานสิบ (Decimal Number) แต่เมื่อเริ่มต้นของศตวรรษที่ 20 ระบบคอมพิวเตอร์ได้ถูกพัฒนาขึ้นจึงทำให้มีการเปลี่ยนแปลงมาใช้ เลขฐานสอง (Binary Number) กับระบบคอมพิวเตอร์ ที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากหลักของพีชคณิต




     Herman Hollerrith
    
บุคคลสำคัญด้านคอมพิวเตอร์
 Dr. Herman Hollerith พ.ศ. 2423 Dr. Herman Hollerith นักสถิติชาวอเมริกันได้ประดิษฐ์เครื่องประมวลผลทางสถิติซึ่ง ใช้กับบัตรเจาะรู เครื่องนี้ได้รับการพัฒนา ให้ดียิ่งขึ้นและมาใช้งานสำรวจสำมะโนประชากร ของสหรัฐอเมริกา ในป พ.ศ. 2433 และช่วยให้การสรุปผลสำมะโนประชากรเสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 2 ปีครึ่ง (โดยก่อนหน้านั้นต้องใช้เวลาถึง 7 ปีครึ่ง) เรียกบัตรเจาะรูนี้ว่า บัตรฮอลเลอริธ และชื่ออื่นๆ ที่ใช้เรียกบัตรนี้ ก็คือ บัตร ไอบีเอ็ม หรือบัตร 80 คอลัมน์ เพราะผู้ผลิตคือ บริษัท IBM
การกำเนิดของเครื่องคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์
เครื่องมือทั้งหลายที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาในยุคก่อนนั้นส่วนมากประกอบด้วยฟันเฟือง รอก คาน ซึ่งเป็นวัสดุ ที่มีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักมากทำให้การทำงานล่าช้าและผิดพลาดอยู่เสมอ ดังนั้นในยุคต่อมาจึงพยายาม พัฒนาเครื่องมือ ให้มีขนาดเล็กลง แต่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น




     Alan Turing
     
Alan Turing
แอลัน แมธิสัน ทัวริง (Alan Mathison Turing) (23 มิถุนายน พ.ศ. 2455 (ค.ศ. 1912) - 7 มิถุนายน พ.ศ. 2497 (ค.ศ. 1954)) เป็นนักคณิตศาสตร์, นักตรรกศาสตร์, นักรหัสวิทยา และวีรบุรุษสงคราม ชาวอังกฤษ และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นบิดาของวิทยาการคอมพิวเตอร์
เขาได้สร้างรูปแบบที่เป็นทางการทางคณิตศาสตร์ของการระบุขั้นตอนวิธีและการคำนวณ โดยใช้เครื่องจักรทัวริง ซึ่งตามข้อปัญหาเชิร์ช-ทัวริงได้กล่าวว่าเป็นรูปแบบของเครื่องจักรคำนวณเชิงกลที่ครอบคลุมทุกๆ รูปแบบที่เป็นไปได้ในทางปฏิบัติ
ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ทัวริงมีส่วนสำคัญในการแกะรหัสลับของฝ่ายเยอรมัน โดยเขาเป็นหัวหน้าของกลุ่ม Hut 8 ที่ทำหน้าที่ในการแกะรหัสของเครื่องอินิกมาที่ใช้ในฝ่ายทหารเรือ
หลังจากสงครามเขาได้ออกแบบเครื่องคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถโปรแกรมได้เครื่องแรกๆ ของโลกที่ห้องปฏิบัติการฟิสิกส์แห่งชาติ และได้สร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นจริงๆ ที่มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ รางวัลทัวริงถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อยกย่องเขาในเรื่องนี้
นอกจากนั้นแล้วการทดสอบของทัวริงที่เขาได้เสนอนั้นมีผลอย่างสูงต่อการศึกษาเรื่องปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งในขณะมีถกเถียงที่สำคัญว่า: เป็นไปได้หรือไม่ที่จะกล่าวว่าเครื่องจักรนั้นมีสำนึกและสามารถคิดได้





     Konrad Zuse
    

ค.ศ. 1941 เป็นครั้งแรกที่โลกได้มีเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่สามารถตั้งโปรแกรมได้อย่างอิสระ ผู้พัฒนาคือ Konrad Zuse และชื่อคอมพิวเตอร์คือ Z1 Computer





     Prof. Howard H. Aiken
    

ในปี ค.ศ. 1931 Howard H.Aiken ได้เริ่มพัฒนาเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นที่มหาลัยฮาร์วาร์ด โดยอาศัยแนวคิดของบัตรเจาะรูเป็นสื่อนำข้อมูลเข้า พร้อมด้วยการทำงานแบบเครื่องจักรกลไฟฟ้า และการพัฒนาดังกล่าวนี้ได้เสร็จสิ้นลงในปี ค.ศ. 1944 ภายใต้การสนับสนุนด้านการเงิน และบุคลากรจากไอบีเอ็ม Mark I จึงมีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า IBM. Automatic Setwence Controlled Calculator
    




     Dr. john V. Atanasoff &Clifford Berry
   
บุคคลสำคัญด้านคอมพิวเตอร์

Dr.Jobn Vincent Atansoff , Clifford Berry
พ.ศ.2480-2481 ดร.จอห์น วินเซนต์ อตานาซอฟ ( Dr.Jobn Vincent Atansoff) และ คลิฟฟอร์ด แบรี่ ( Clifford Berry) ได้ประดิษฐ์เครื่อง ABC ( Atanasoff-Berry) ขึ้น โดยได้นำหลอดสุญญากาศมาใช้งาน ABC ถือเป็นเครื่องคำนวณเครื่องแรกที่เป็นเครื่องอิเล็กทรอนิกส์
  




     Dr. john W. Mauchly & J. Presper Eckert
    
   
ค.ศ. 1946 University of Pennsylvania โดย Dr.John W. Mauchly ได้ร่วมกับ J. Presper Eckert,Jr. สร้างคอมพิวเตอร์ชื่อ The Electronic ENIAC Computer(Electronic Numerical Integrator and Computer)
ENIAC - Electronics Numerical Integrator and Computer
ค.ศ. 1951 คอมพิวเตอร์ได้ถูกพัฒนาให้สามารถใช้งานได้อย่างครอบคลุม มีชื่อว่า
The UNIVAC I (The Universal Automatic Computer I) โดยมี Dr.John W. Mauchly และ J. Presper Eckert,Jr. เป็นผู้พัฒนาขึ้นมา จัดเป็นยุคของคอมพิวเตอร์ยุคที่ 1 (ค.ศ. 1951-ค.ศ.1959)




    Dr.john Von Neumann


 พ.ศ.2492 ดร.จอห์น ฟอน นิวแมนน์ ( Dr.John Von Neumann ) ได้สร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถเก็บคำสั่งการปฏิบัติงานทั้งหมดไว้ภายในเครื่อง ชื่อว่า EDVAC นับเป็นคอมพิวเตอร์เครี่องแรกที่สามารถเก็บโปรแกรม ไว้ในเครื่องได้




     Dr. Ted Hoff


ในปี 1980 เขาถูกเสนอชื่อครั้งแรกที่อินเทลเพื่อน, ตำแหน่งทางวิชาการที่สูงที่สุดใน บริษัท He spent a brief time as VP for Technology with Atari in the early 1980s and is currently VP and Chief Technical Officer with Teklicon, Inc. Other honors include the Stuart Ballantine Medal from the Franklin Institute. เขาใช้เวลาช่วงสั้น ๆ ในขณะที่รองประธานฝ่ายเทคโนโลยีกับอาตาริในช่วงต้นทศวรรษ 1980 และเป็นนักวิชาการในปัจจุบันรองประธานและหัวหน้าด้วยเกียรตินิยมอื่น ๆ Teklicon, Inc รวมเหรียญ Stuart Ballantine จากแฟรงคลินสถาบัน Inducted into National Inventors Hall of Fame in 1996 for his invention of the Microprocessor Concept and Architecture. แต่งตั้งให้เข้าไปในห้องโถงโซเฟียแห่งชาติหอเกียรติยศในปี 1996 สำหรับสิ่งประดิษฐ์ของเขาจากแนวคิดของไมโครโปรเซสเซอร์และสถาปัตยกรรม





    Steve Jobs & Steve Wazniak

 ปี ค.ศ. 1976 เป็นผู้มีส่วนช่วยทำให้แนวความคิดเรื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเป็นที่นิยมขึ้นมา ด้วยเครื่อง Apple II ต่อมา เขาเป็นผู้แรกที่มองเห็นศักยภาพทางการค้าของส่วนประสานงานผู้ใช้แบบกราฟิกส์และเม้าส์ ที่ถูกพัฒนาขึ้นในศูนย์วิจัยซีร็อกซ์พาร์ค ของบริษัทซีร็อกซ์ และได้มีการผนวกเทคโนโลยีเหล่านี้เข้าไว้ในเครื่องแมคอินทอช หลังพ่ายแพ้ในการแย่งชิงอำนาจกับคณะกรรมการบริหาร





     Bill Gates
บิลล์ เกตส์
วิลเลียม เฮนรี เกตส์ ที่สาม (เกิด 28 ตุลาคม ค.ศ. 1955) หรือที่มักเป็นที่รู้จักในชื่อ บิลล์ เกตส์ เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกัน และหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ เขากับผู้บุกเบิกด้านคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลคนอื่น ๆ ได้ร่วมกันเขียนต้นแบบของภาษาอัลแตร์เบสิก ซึ่งเป็นอินเตอร์เพรเตอร์สำหรับเครื่องอัลแตร์ 8800                     (เค่รื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในยุคแรกๆ) เขาได้ร่วมกับ นายพอล อัลเลน ก่อตั้งไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชันขึ้น ซึ่งในขณะนี้เขาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหาร และหัวหน้าสถาปนิกซอฟต์แวร์ นิตยสารฟอบส์ได้จัดอันดับให้ บิลล์ เกตส์ เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกหลายปีติดต่อกัน


                                                                                                                                                  

2. ประวัติความเป็นมาของคอมพิวเตอร์ สามารถแบ่งออกได้เป็นยุคๆ ตามช่วงเวลา และมีเหตุการณ์สำคัญๆ รวมถึงจุดเปลี่ยนแปลงเด่นๆ ให้นักศึกษาค้นคว้า รวบรวม ข้อมูล และสรุปสาระสำคัญ


         ยุคของคอมพิวเตอร์ สามารถแบ่งได้เป็น 5 ยุค ดังนี้ คือ

ยุคที่ 1

อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2488 ถึง พ.ศ. 2501 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้หลอดสุญญากาศซึ่งใช้กำลังไฟฟ้าสูง จึงมีปัญหาเรื่องความร้อนและไส้หลอดขาดบ่อย ถึงแม้จะมีระบบระบายความร้อนที่ดีมาก การสั่งงานใช้ภาษาเครื่องซึ่งเป็นรหัสตัวเลขที่ยุ่งยากซับซ้อน เครื่องคอมพิวเตอร์ของยุคนี้มีขนาดใหญ่โต เช่น มาร์ค วัน (MARK I), อีนิแอค (ENIAC), ยูนิแวค (UNIVAC)
ยุคที่ 2  คอมพิวเตอร์ยุคที่สอง อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2502 ถึง พ.ศ. 2506 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทรานซิสเตอร์ โดยมีแกนเฟอร์ไรท์เป็นหน่วยความจำ มีอุปกรณ์เก็บข้อมูลสำรองในรูปของสื่อบันทึกแม่เหล็ก เช่น จานแม่เหล็ก ส่วนทางด้านซอฟต์แวร์ก็มีการพัฒนาดีขึ้น โดยสามารถเขียนโปรแกรมด้วยภาษาระดับสูงซึ่งเป็นภาษาที่เขียนเป็นประโยคที่คนสามารถเข้าใจได้ เช่น ภาษาฟอร์แทน ภาษาโคบอล เป็นต้น ภาษาระดับสูงนี้ได้มีการพัฒนาและใช้งานมาจนถึงปัจจุบันยุคที่ 3
คอมพิวเตอร์ยุคที่สาม อยู่ระหว่างปี พ.ศ. 2507 ถึง พ.ศ. 2512 เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจรรวม (Integrated Circuit : IC) โดยวงจรรวมแต่ละตัวจะมีทรานซิสเตอร์บรรจุอยู่ภายในมากมายทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์จะออกแบบซับซ้อนมากขึ้น และสามารถสร้างเป็นโปรแกรมย่อย  ในการกำหนดชุดคำสั่งต่าง ๆ ทางด้านซอฟต์แวร์ก็มีระบบควบคุมที่มีความสามารถสูงทั้งในรูประบบแบ่งเวลาการทำงานให้กับงานหลาย ๆ อย่าง
ยุคที่ 4

คอมพิวเตอร์ยุคที่สี่ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 จนถึงปัจจุบัน เป็นยุคของคอมพิวเตอร์ที่ใช้วงจรรวมความจุสูงมาก(Very Large Scale Integration : VLSI) เช่น ไมโครโพรเซสเซอร์ที่บรรจุทรานซิสเตอร์นับหมื่นนับแสนตัว ทำให้ขนาดเครื่องคอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลงสามารถตั้งบนโต๊ะในสำนักงานหรือพกพาเหมือนกระเป๋าหิ้วไปในที่ต่าง ๆ ได้ ขณะเดียวกันระบบซอฟต์แวร์ก็ได้พัฒนาขีดความสามารถสูงขึ้นมาก มีโปรแกรมสำเร็จให้เลือกใช้กันมากทำให้เกิดความสะดวกในการใช้งานอย่างกว้างขวางยุคที่ 5
คอมพิวเตอร์ยุคที่ห้า เป็นคอมพิวเตอร์ที่มนุษย์พยายามนำมาเพื่อช่วยในการตัดสินใจและแก้ปัญหาให้ดียิ่งขึ้น โดยจะมีการเก็บความรอบรู้ต่าง ๆ เข้าไว้ในเครื่อง สามารถเรียกค้นและดึงความรู้ที่สะสมไว้มาใช้งานให้เป็นประโยชน์ คอมพิวเตอร์ยุคนี้เป็นผลจากวิชาการด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ประเทศต่างๆ ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และประเทศในทวีปยุโรปกำลังสนใจค้นคว้าและพัฒนาทางด้านนี้กันอย่างจริงจั



วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สถานที่ท่องเที่ยว

สถานที่ท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต
วัดพระทอง (พระผุด)


            พระผุด หรือพระทอง เป็นพระพุทธรูปผุดจากดินโผล่แค่พระศอ สูงถึงพระเกษ ๑ (๒๔๔.๕ เซนติเมตร) วัสดุทองคำภายนอกก่ออิฐถือ ปูนเป็นพระครึ่งองค์สวมทับอีกชั้นหนึ่ง แงค์เดิมไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้าง ในสมัยใด มีการปฏิสังขรณ์ครอบองค์เดิมหลายครั้ง เป็น พระพุทธรูปเก่าแก่คู่มากับเมืองถลาง




                ตามประวัติพระผุด กล่าวว่า เดิมเป็นบริเวณทุ่งนาเรียกว่าบ้านนา วันหนึ่งมีเด็กนำกระบือไปเลี้ยงเอาเชือกผูกเข้ากับสิ่งหนึ่งมี ลักษณะเหมือนแก่นไม้มีโคลนติดอยู่ เมื่อกลับไปบ้านเด็กก็เป็นลมตาย ส่วนกระบือก็ตายอยู่ตรงนั้นพอตกกลางคืน พ่อของเด็กผู้ตาย ฝันว่า ที่เด็กและกระบือตายเนื่องจากไปผูกเชือกไว้กับพระเกศของพระพุทธรูป มีเกศเป็นทองคำงดงามยิ่ง จึงพากันไปแจ้งให้     เจ้าเมืองทราบ ได้สั่งขุดแต่ไม่สำเร็จเพราะมีตัวต่อและตัวแตนทำร้าย เจ้าเมืองจึงสั่งให้ทำเป็นหลังคาคลุมพระเกศไว้ และสักการะบูชา กราบไหว้กันตลอดมา



                      
                                          คนจีนโบราณเล่าขานกันว่า สมัยเมื่อธิเบตรุกรานจีนและตีได้เมืองเซี่ยงไฮ้ มีพระพุทธรูปทองคำชื่อว่า"กิ้ม มิ่นจ้อ" ถูกชาวธิเบต นำลงเรือมาทางทะเลจีนเข้ามายังมหาสมุทรอินเดียเพื่อต่อไปยังประเทศธิเบต เรือเกิดถูกพายุพัดเข้ามายังฝั่งพังงาและจมลงตรงนี้ เอง พระพุทธรูปได้จมลงมีคนมาพบเห็นดังกล่าว นอกจากเพื่อป้องกันโจรภัยแล้ว ชาวบ้านเชื่อกันว่า พระพุทธรูปองค์นี้มีความประสงค์                   ที่จะประดิษฐานอยู่ในพื้นดินต่อไป จึงพากันสร้างพระพุทธรูปเพียงครึ่งองค์สวมทับพระทองคำที่อยู่ใต้ชั้นพื้นดิน อีกชั้นหนึ่ง พระบาทสม เด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งยังดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จประพาสจังหวัด ภูเก็ต พระราชทานนามวัดว่า "วัดพระทอง" พระผุด มีอีก ชื่อหนึ่งคือ หลวงพ่อพระทอง เป็นพระประธานอยู่ที่วัดพระทอง หรือ วัดพระผุด หรือวัดนาใน วัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ซึ่งตั้งอยู่ที่ บ้านนาใน ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง จ.ภูเก็ต สามารถไปได้จากตัวเมืองภูเก็ต ใช้ทางหลวงหมายเลข 402 พอถึง อ.ถลาง ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปยังวัดพระทองตามป้ายที่บอกข้างทาง




สามารถติดตามข่าวสารภูเก็ต และ สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตได้ที่ "คลิ๊กที่นี่"







สนับสนุนข้อมูลอย่างเป็นทางการโดย



























    

รู้เลยยยยย

ประวัติส่วนตัว



สวัสดีครับ ผมชื่อ นาย อดิศร  สันติคุณากร ชื่อเล่น  เจมส์
เกิด วันที่ 1/11/2535  อายุ 21 เลือดกรุ๊ป โอ  
E-mail : blackdragon_y2j@hotmail.com   
อาศัยอยู่ 19/159 ถ.รัษฎานุสร ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต
รับครอบครัว ขี้อายเล็กน้อย ไม่ค่อยชอบพูดกับไมโครโฟน
ชอบทำกับข้าวที่บ้าน นอน  ดูหนัง ฟังเพลง เล่นกีต้าร์
ความสามารถพิเศษ เล่นดนตรี กับเพื่อน 
ความฝัน อยากเป็นศิลปิน Gmm Grammy ครับ
การศึกษาและประสบการณ์
จบการศึกษาจาก วิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต ในระดับชั้น ปวส.2  คอมพิวเตอร์ธุรกิจ
ผ่านการฝึกงานที่ โรงแรม ตรีสรา ภูเก็ต ระยะเวลา  4 เดือน